10 แนวทางอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไรให้ยั่งยืน

การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคน ความยั่งยืนหมายถึงการใช้ทรัพยากรในปัจจุบันโดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถของคนรุ่นต่อไปในการตอบสนองความต้องการของพวกเขา ต่อไปนี้เป็น 10 แนวทางที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงเพื่อช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

1. หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน

พลาสติกเป็นหนึ่งในขยะที่พบมากที่สุดในมหาสมุทรและแหล่งน้ำทั่วโลก พลาสติกเหล่านี้ใช้เวลานานหลายร้อยปีในการย่อยสลาย การลดการใช้พลาสติกสามารถทำได้โดยการพกถุงผ้า กระบอกน้ำ หรือแก้วส่วนตัว ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้อย่างมาก นอกจากนี้ การเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้ในภาคธุรกิจ หลายองค์กรก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เช่น สิงห์ เอสเตท ที่รณรงค์ให้มีการงดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในโรงแรมทุกแห่งในเครือ ทั้งหลอดพลาสติก ขวดน้ำพลาสติก และของใช้พลาสติกในห้องพัก

2. การประหยัดพลังงานในชีวิตประจำวัน

การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านอีกด้วย วิธีง่ายๆ ในการประหยัดพลังงาน ได้แก่ การปิดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน การใช้หลอดไฟ LED ที่ประหยัดพลังงาน การตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม (ประมาณ 25-26 องศาเซลเซียส) และการซักผ้าด้วยน้ำเย็นเพื่อลดการใช้พลังงานในการทำความร้อน โดย สิงห์ เอสเตท นั้นคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพในระยะยาว โดยในปีที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน เช่น การติดตั้ง LED Motion Sensor การติดตั้งแผงโซลาร์ รวมถึงระบบปรับอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม และ พลังงาน ในแนวคิด S Head Office

3. การจัดการขยะอย่างถูกวิธี

การคัดแยกขยะเป็นขั้นตอนสำคัญในการรีไซเคิลและการจัดการของเสีย ควรแยกขยะออกเป็นประเภทต่างๆ เช่น ขยะอินทรีย์ กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ และขยะอันตราย นอกจากนี้ การทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารและเศษใบไม้ยังเป็นวิธีที่ดีในการลดปริมาณขยะและได้ปุ๋ยคุณภาพดีสำหรับการปลูกต้นไม้หรือพืชผักสวนครัว ซึ่งการ Reuse และ Recycle เป็นส่วนหนึ่งของหลักการ 4Rs ที่หลายองค์กรนำมาปรับใช้ เช่น สิงห์ เอสเตท ที่ใช้เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานเพื่อลดปริมาณขยะ โดยควรแยกขยะออกเป็นประเภทต่างๆ เช่น ขยะอินทรีย์ กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ และขยะอันตราย ตัวอย่างที่น่าสนใจคือโครงการ "ฝา ยิ้มได้" (Lid Create Smile) ของ บุญรอดบริวเวอรี่ โดย สิงห์ เอสเตท ได้เข้าไปร่วมรณรงค์ให้มีการคัดแยกขยะพลาสติกอย่างละเอียด โดยเฉพาะฝาขวดน้ำพลาสติก เพื่อนำไปรีไซเคิลและอัพไซเคิลเป็นตะขออเนกประสงค์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวัสดุให้คุ้มค่าที่สุด

4. การใช้น้ำอย่างประหยัด

น้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่าและมีอยู่อย่างจำกัด การใช้น้ำอย่างประหยัดสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การปิดก๊อกน้ำขณะแปรงฟัน การซ่อมแซมก๊อกน้ำที่รั่ว การใช้ฝักบัวประหยัดน้ำ การเก็บน้ำฝนเพื่อรดน้ำต้นไม้ และการเลือกใช้เครื่องซักผ้าและเครื่องล้างจานที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำ โดย สิงห์ เอสเตท ได้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานในระดับสากล เพิ่มปริมาณการใช้น้ำหมุนเวียน การนำน้ำที่บำบัดแล้วมาใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เพื่อลดการดึงน้ำใหม่จากภายนอก การประหยัดน้ำไม่เพียงช่วยลดการใช้ทรัพยากรน้ำ แต่ยังช่วยลดพลังงานที่ใช้ในการทำความสะอาดและการจัดส่งน้ำอีกด้วย

5. การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน

พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ เป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดและยั่งยืนกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านหรือการเลือกใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทนเป็นวิธีที่ดีในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ การสนับสนุนนโยบายและโครงการที่ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น ทาง สิงห์ เอสเตท ก็ได้ให้ความสำคัญกับการใช้แหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่าง การใช้พลังงานสะอาดในพื้นที่ที่เหมาะสมในธุรกิจโรงแรม พัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เอส อ่างทอง ที่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดหาไฟฟ้าคาร์บอนต่ำ พลังงานไอน้ำ และพลังงานสะอาด เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้ายังถูกออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเน้นการอนุรักษ์พลังงานผ่านวัสดุและเทคโนโลยีต่างๆ

6. การเลือกบริโภคอย่างยั่งยืน

การบริโภคอย่างยั่งยืนหมายถึงการเลือกซื้อและใช้สินค้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สิ่งนี้รวมถึงการเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นเพื่อลดการขนส่ง การเลือกซื้อสินค้าออร์แกนิกที่ไม่ใช้สารเคมี การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ และการเลือกซื้อสินค้าที่มีฉลากรับรองความยั่งยืน เช่น ฉลากเขียว หรือ FSC (Forest Stewardship Council) สำหรับผลิตภัณฑ์จากไม้ โดยทาง สิงห์ เอาเตท ในธุรกิจโรงแรมมีการสนับสนุนชุมชน ผ่านการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในรัศมี 100 กิโลเมตร และบางส่วนนำมาต่อยอดให้เป็นสินค้าของที่ระลึกที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของชุมชน รวมถึงสนับสนุนอาชีพขับเรือหางยาวของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย

7. ใช้ขนส่งสาธารณะในการเดินทางให้มากขึ้น

การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การปั่นจักรยาน การเดิน หรือการใช้รถร่วมกัน (Carpooling) ช่วยลดทั้งในด้านการใช้พลังงานและการปล่อยไอเสียต่าง ๆ ที่เป็นมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ หากจำเป็นต้องซื้อรถยนต์เพื่อใช้เดินทาง การเลือกรถที่ประหยัดน้ำมันหรือรถไฟฟ้าก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะการลดการใช้รถยนต์ไม่เพียงช่วยลดมลพิษ แต่ยังช่วยลดการจราจรติดขัดและส่งเสริมการออกกำลังกายอีกด้วย

การเลือกที่พักอาศัยหรือแม้กระทั่งที่ทำงานที่ใกล้กับระบบขนส่งสาธารณะก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น เช่น อาคารสำนักงานชั้นนำหลายแห่งที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบรถไฟฟ้า อาทิ ตึก S-OASIS ที่ตั้งอยู่ใกล้ย่านพหลโยธิน สามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสวนจตุจักร, SINGHA COMPLEX ที่มีทางเชื่อมโดยตรงกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีเพชรบุรี และ S-METRO ที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์

เช่นเดียวกับการเลือกที่พักอาศัย อย่างโครงการ The EXTRO Phayathai-Rangnam (ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท–รางน้ำ) คอนโดมิเนียม High Rise 33 ชั้น ระดับ PREMIUM LUXURY บนถนนรางน้ำ ที่อยู่ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จึงทำให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องง่าย โครงการนี้ออกแบบในสไตล์ Modern Contemporary โดดเด่นด้วย Curtain Wall system เน้นห้องหน้ากว้าง มี 411 ยูนิต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท

8. การปลูกต้นไม้และการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว

ต้นไม้มีบทบาทสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดมลพิษทางอากาศ และป้องกันการพังทลายของดิน การปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้าน ที่ทำงาน หรือในชุมชนเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและช่วยลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ การสนับสนุนโครงการปลูกป่าและการอนุรักษ์พื้นที่ป่าธรรมชาติก็เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ อย่าง โครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว โดย สิงห์ เอสเตท เป็นโครงการที่มุ่งสร้างพื้นที่ป่าต้นน้ำใหม่ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกและบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยโครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้วดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยโครงการได้ตั้งเป้าปลูกป่า 1 ล้านตารางเมตรภายใน 10 ปี สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง

9. การให้ความรู้และการสร้างความตระหนัก

การศึกษาและการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับครอบครัว เพื่อน และชุมชนสามารถสร้างผลกระทบที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและการเข้าร่วมกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชนก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างความตระหนักและการมีส่วนร่วม ซึ่งมีตัวอย่างโครงการต่าง ๆ ของ สิงห์ เอสเตท เช่น "Lid Create Smile" หรือ "Let's Go GREEN" ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะ แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักและกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะและการจัดการทรัพยากรอย่างถูกต้อง รวมทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อย่าง Nature Trail เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในบริเวณโรงแรม สันติบุรี สมุย และ ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล Marine Discovery Centre ที่ SAii Phi Phi Island Village เป็นต้น

10. การสนับสนุนนโยบายและกฎหมายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การสนับสนุนนโยบายและกฎหมายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเข้าร่วมองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมเป็นวิธีที่เราสามารถมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายได้ โดย สิงห์ เอสเตท เองก็มีโครงการหลายโครงการที่มีความร่วมมือในระดับภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ เช่น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ,UNGC, และ IUCN

การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนไม่ใช่เพียงความรับผิดชอบของรัฐบาลหรือองค์กร แต่เป็นความรับผิดชอบของทุกคน การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันของเราสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่เมื่อรวมกัน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไม่เพียงช่วยปกป้องโลกของเราสำหรับคนรุ่นต่อไป แต่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของเราในปัจจุบันอีกด้วย