• Home page
  • NEWS Room
  • สิงห์ เอสเตท ร่วมสนับสนุนงาน Run for the Ocean 2019 งานวิ่งมหาสนุกเพื่อมหาสมุทรของเรา
01 Jun 2019

สิงห์ เอสเตท ร่วมสนับสนุนงาน Run for the Ocean 2019 งานวิ่งมหาสนุกเพื่อมหาสมุทรของเรา

สิงห์ เอสเตท ร่วมสนับสนุนงาน Run for the Ocean 2019  งานวิ่งมหาสนุกเพื่อมหาสมุทรของเรา

กรุงเทพมหานคร - สิงห์ เอสเตท ประกาศเดินหน้าเข้าร่วมเป็นสมาชิก Bio-Diversity Network Alliance (B-DNA) ซึ่งเป็นเครือข่ายความร่วมมือที่ดำเนินงานเพื่อขยายบทบาทของภาคเอกชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ผ่านการรณรงค์ให้องค์กรเห็นความสำคัญกับความหลากหลายทางชีวภาพ และมีการดำเนินงานโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องไปกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (SDGs)

nn

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเข้าร่วมเป็นสมาชิก B-DNA ในครั้งนี้ สอดคล้องกับปรัชญาในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบของสิงห์ เอสเตท เพื่อมุ่งสู่การเป็น Global Holding Company โดยการสร้างความสมดุลในการอยู่ร่วมกันของสังคมและสิ่งแวดล้อม ส่งมอบคุณค่าและความต้องการให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม บนพื้นฐาน Good Corporate Citizenship อีกทั้งเราตระหนักเสมอว่า การดำเนินกิจกรรมด้านการอนุรักษ์นั้น เป็นสิ่งที่ทำให้สำเร็จได้ยากถ้าหากต่างคนต่างทำ ดังนั้น เราจึงดำเนินโครงการต่างๆโดยอาศัยความช่วยเหลือและความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วนในสังคม ที่มาช่วยขับเคลื่อนและผลักดันให้โครงการต่างๆเกิดขึ้น อาทิ โครงการ “พีพี กำลังจะเปลี่ยนไป” ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทฯจัดตั้งขึ้นในปี 2559 ตามกรอบแนวคิด “พีพี โมเดล” ซึ่งเป็นแนวทางที่อยู่บนพื้นฐานของ IUCN โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูปะการังฟอกขาวที่เกาะยูงและบริเวณอ่าวมาหยา โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากภาครัฐ นักวิชาการจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ภาคประชาสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”

nn

นายนริศ กล่าวเสริม “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมกับ B-DNA ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาคีเครือข่ายที่มีความสำคัญและมีการดำเนินกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างแข็งขัน และในอนาคต สิงห์ เอสเตท จะยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์อีกหลากหลายโครงการ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทั้งชุมชนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งมอบคุณค่า ควบคู่ไปกับสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในทุกสถานที่ที่บริษัทฯ เข้าไปพัฒนาโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการในประเทศไทยและโครงการในต่างประเทศ เช่น ในปี 2562 ที่ สิงห์ เอสเตท กำลังจะเปิดศูนย์การเรียนรู้ทางทะเลถึง 2 แห่ง ได้แก่  “มัลดีฟส์ ดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์” (Maldives Discovery Center) และ “มารีน ดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์” (Marine Discovery Centre) ที่โครงการคร้อสโรดส์ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของท้องทะเล ผ่านการให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์และการฟื้นฟูปะการังแก่นักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น”

nn

ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา สิงห์ เอสเตท ได้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มมาโดยตลอด ด้วยการสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นระหว่างชุมชนและสิ่งแวดล้อม ผ่านภาคีเครือข่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม และในอนาคตบริษัทฯจะเดินหน้าต่อไปในการขยายเครือข่ายคณะทำงานให้เข้มแข็ง เพื่อผลักดันให้หลากหลายโครงการเกิดขึ้น ครอบคลุมทุกมิติที่เกี่ยวเนื่องกับสังคมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การสร้างสรรค์เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีและยั่งยืนต่อไป

nn

Bio-Diversity Network Alliance (B-DNA) ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือระหว่างบริษัทโตโยต้าและองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายบทบาทของภาคเอกชนในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และอนุรักษ์ไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2561 และมีบริษัท เข้าร่วมเป็นสมาชิก ณ ตอนนี้ 9 บริษัท ซึ่งในปี 2562 เป็นครั้งแรกของสิงห์ เอสเตท ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายนี้ 

nn

ล่าสุดหลังจากได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก B-DNA สิงห์ เอสเตท ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Coastal Cleanup โดยได้นำนิทรรศการ #SeaYouTomorrow ให้ความรู้เกี่ยวกับขยะทะเลไปร่วมจัดแสดง รวมถึงส่งตัวแทนบริษัทฯ ร่วมกิจกรรมเก็บขยะในป่าชายเลน ซึ่งภายในงานมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเข้าร่วมจากเครือข่ายและพันธมิตรกว่า 2,000 คน หลังจากจบกิจกรรมพบว่าสามารถเก็บขยะในป่าชายเลนได้มากว่า 2,700 กิโลกรัม ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ บางปู จังหวัดสมุทรปราการ

nn

n
Share :